55 ร้านอาหารอร่อยในกรุงเทพฯ

วันนี้จะแนะนำร้านอาหารอร่อย เผื่อบางท่าน แวะผ่านจะได้ลองชิม หรือ สรรหาร้านรสชาดิ ถูกใจ บางท่านชิมแล้วอาจจะบอกว่างั้นๆ แต่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า อร่อย… ใครที่ชอบหาของอร่อยทานทุกสัปดาห์ ลองทานดูสัปดาห์ละร้าน 1 ปี ก็ครบทุกร้านแล้วจ้า

ชื่อร้านข้างล่างไม่ได้เรียงตามลำดับความอร่อยนะคะ เพราะอร่อยทุกร้านที่แนะนำจ้า

1. ก๋วยเตี๋ยวหลอด : ก๋วยเตี๋ยวหลอดในซอยข้างสถานีตำรวจพลับพลาไชย มีข้อดีที่เส้นนุ่มกำลังดี ไม่เหนียวเกินไป ไม่เละเกินไป และไม่มันเกินไป ทานอร่อยได้ไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง

2. ก๋วยจั๊บเผ็ด : เนื่องจากตำเม็ดพริกไทยใส่ลงไปตอนทำน้ำต้มกระดูกแถมโรยพริกไทยในชามอีกครั้ง เพื่อให้รสชาติเข้มข้นถึงใจ มีสาขาอีกร้านเป็นญาติกัน เปิดร้านใหญ่อยู่ตลาดเยาวราช แต่ความเข้มข้นอาจจะไม่เท่า เพราะที่นี่อาซิ่มท้าว่า คนเป็นหวัดมากิน..หวัดหายกันมาแล้วทุกราย ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยโรงเลี้ยงเด็ก แต่เจ้าของบอกว่าอยู่ใน ซอยนาคบำรุง ต่างหาก

3. ก๋วยเตี๋ยว, เกาเหลา เนื้อตุ๋น เจ้ผอม ตลาดปีระกา อยู่ที่เวิ้งนครเกษม หน้าตลาดสด ร้านนี้น้ำซุปอร่อยมาก เอ็นตุ๋นนุ่มมาก เครื่องในไม่มีกลิ่นคาว รับรองได้ชิมแล้วจะติดใจ

4. ก๋วยเตี๋ยวหลอดเยาวราช : ร้านแรกเป็นรถเข็นอยู่ต้นถนนเยาวราชฝั่งขวา ก่อนแยกเข้าถนนผดุงด้าว สังเกตได้จากปริมาณคลื่นคนที่อออยู่หน้าร้าน ลูกค้าบอกว่ามีดีที่เครื่องเยอะและรสชาติเข้มข้น หรือถ้าอยากชิมก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบที่ยังคงความเป็นหลอดไว้ ก็ต้องเดินเลยมาอีกนิด อยู่ฝั่งซ้ายมือ ปากซอยที่มีร้าน 7-11 อยู่ด้านใน เด็ด..เช่นกัน

5. ก๋วยเตี๋ยวต้มยำผักหวาน อยู่ซอย นวมินทร์ 96 ชื่อร้านครัวแสนดี อร่อยดี แปลก และน่าทานมาก 54. สเต็กสอาด แยกพรานนก

6. ก๋วยเตี๋ยววัว รสเด็ด ถนนดินสอ ใกล้ๆ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตรงข้ามร้านอาหารนิโอลีน

7. ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ : ร้านที่แนะนำนี้ทำทั้งก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ และก๋วยเตี๋ยวอบไก่ สูตรแรกจะคั่วเส้นกับไข่จนหอมแห้ง อีกสูตรใส่ไข่แล้วปิดฝาหม้อให้กลิ่นอบอยู่ข้างใน อยู่ซอยตรงข้ามโรงพยาบาลกลาง

8. ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล : ร้านนี้ขายทั้งคั่วทะเลและคั่วไก่ แต่ที่ขึ้นชื่อจะเป็นคั่วทะเล เพราะใส่ทั้งกุ้งและปลาหมึกให้ด้วยอยู่ในซอยข้างตลาดวรจักร หาไม่ยาก แต่ทางเข้าวังเวงเล็กน้อย สาวๆ อยากลองควรหาใครไปเป็นเพื่อนสักคนสองคน

9. กระเพาะปลาน้ำแดง : ใช้เวลาเตรียมแต่เช้ามืดเพื่อเปิดขายตอนประมาณสี่โมงเย็นถึงสี่ทุ่ม เพราะต้องเคี่ยวกระดูกไก่นาน 4 ชั่วโมง ผสมกับเครื่องปรุงอย่างดี ทำให้ได้น้ำหอมหวาน แต่เดิมขายในรถ เดี๋ยวนี้กลายเป็นแผงอยู่

10. ไก่ย่างแม่วันเพ็ญ : ไก่ย่างและไก่ย่างทอดร้อนๆ ทอดจนกรอบ แล้วโรยเครื่องเทศให้หอม เข้าได้ทั้งจากซอยอาภาภิรมย์ ข้างกรมการค้าส่งออก ถนนรัชโยธิน หรือจากซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าวก็ได้

11. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาโบราณ จันทบุรี : ร้านตั้งอยู่เลยวัดตรีทศเทพ เลี้ยวซ้ายไปเล็กน้อย เป็นลูกชิ้นปลาทำเอง เจ้าของร้านกิตติศัพท์เรื่องรสชาติมีมาก พอๆ กับการไม่ง้อลูกค้า คนเรื่องมากต้องระวังจะถูกเชิญให้ไปรับประทานร้านอื่น

12. ก๋วยเตี๋ยวไหหลำ : แปลกกว่าก๋วยเตี๋ยวธรรมดาตรงเส้นที่คล้ายเส้นเกี้ยมอี๋แต่ยาวกว่า ใส่ผักกาดดองตามสูตรไหหลำ เนื้อหมูและวัวเลือกมาอย่างดี อยู่ตรงสะพานขาว ถนนลูกหลวง ใกล้โรงหนังแอมบาสเดอร์เก่า

13. ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย สมทรงโภชนา : เจ้าของสูตรซึ่งเป็นชาวสวรรคโลกแท้ๆ เพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน พี่วรรณลูกสาวจึงรับหน้าที่ปรุงรสก๋วยเตี๋ยวให้ได้ครบรส เดิมตั้งอยู่ในซอยวัดสังเวช ถนนท่าพระอาทิตย์ เดี๋ยวนี้ขยับขยายขึ้นไปอยู่บน ศูนย์อาหารเซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าว

14. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสศรีย่าน : ตู้ใส่เส้นและลูกชิ้นค่อนข้างเก่าเนื่องจากทำมาหลายสิบปี แต่ก็ยังคงความอร่อยของลูกชิ้นไว้เช่นเดิม อยู่บริเวณตลาดศรีย่าน

15. ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเด้งได้ : เป็นร้านพี่น้องอยู่ใกล้ๆ กัน บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ กระซิบว่าเจ้าของร้านไม่ค่อยอยากให้ลง แต่เพราะความอร่อยของลูกชิ้นและเส้นที่เหนียวนุ่ม เราจึงจำเป็นต้องแนะนำ

16. ไก่ทอดเจ๊กี : บางคนเรียกไก่ทอดโปโล เพราะตั้งอยู่ในซอยโปโล ตรงข้ามสวนลุมพินี เป็นร้านเก่าร้านแก่ตั้งแต่รุ่นเจ๊กี คือคุณแม่ คิดสูตรไก่ทอดโรยกระเทียมเจียวหอม พร้อมอาหารประเภทส้มตำ น้ำตก เปิดบริการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า มีบริการจัดส่งบริเวณใกล้เคียง

17. ไก่ย่างจิรพันธ์ : ร้านขายอาหารอิสลามล้วนๆ นอกจากไก่ย่างยังมีเนื้อสะเต๊ะ ข้าวหมกไก่ แถมด้วยข้าวหมกแพะ จากถนนรามคำแหงเลี้ยวที่แยกพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางมอเตอร์เวย์ จะอยู่ทางซ้ายมือเลยปั๊มเชลล์ไปประมาณ 500 เมตร

18. ข้าวมันไก่เจ๊ยี : ตรงข้ามวัดสระเกศ ขึ้นชื่อเรื่องข้าวมันแสนนุ่ม และไก่ต้มยุ่ยกำลังดี ขายช่วงสายๆ จนถึงกลางวัน ต้องรีบไปเช่นกัน เพราะช้าหมดจะอดชิม

19. ข้าวต้มปลา 5 แยก : บริเวณ 5 แยกพลับพลาไชย ความอร่อยอยู่ที่ความสดของเนื้อปลากะพง ปลาหมึก กุ้ง และหอยนางรมตัวโต เมื่อปรุงกับข้าวต้มร้อนๆ น้ำจะออกมาจากตัวเนื้อ ทำให้ข้าวต้มหอมและหวาน

20. ไก่ทอด 7 กระทะ : ไก่ทอดจนกรอบเกรียม รวมกับกระเทียมเจียวร้อนๆ ทำให้มีลูกค้ามากมายมายืนรอ เมื่อไม่ทันใจจึงต้องใช้กระทะถึง 7 ใบ จากแยกรัชดา-สุทธิสาร มุ่งหน้าสู่แยกที่จะลัดออกสู่ลาดพร้าวอยู่ทางซ้ายมือ

21. ข้าวผัดปู ห้าแยก ณ ระนอง: อาหารจีนชนิดอื่นๆ ทั้งกระเพาะปลา รังนก กระทั่งหูฉลาม ทั้งหมดราคาย่อมเยาและรสชาติสมเป็นอาหารจีนแท้ๆ โดยไม่ต้องขึ้นเหลา มี ผัดหมี่หยังโจวกับข้าวผัดปู เป็นเมนูหลัก ร้านเปิดขายประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป ที่ห้าแยก ณ ระนอง ตรงข้ามสโมสรการท่าเรือ

22. ข้าวขาหมูเหม่งจ๋าย :จากแยกเหม่งจ๋ายมุ่งหน้ามาทางที่จะทะลุถนนเลียบทางด่วน จะเห็นร้านอาหารหลายร้านอยู่ด้านขวามือ ข้าวขาหมูร้านที่ว่าเป็นที่ชื่นชอบของคนรักเครื่องในและหมูกรอบ

23. ข้าวหมูแดงสีมรกต : ไม่ต้องสงสัยว่าข้าวหมูแดงทำไมเป็นสีเขียว..จริงๆแล้วคือนามสกุลเจ้าของร้าน มีทีเด็ดตรงที่ทุกอย่างล้วนผ่านกรรมวิธีการย่าง ย่างมาตลอดสี่สิบกว่าปี ร้านอยู่ในตรอกโรงหมูตรงข้ามวัดไตรมิตร ขายเวลา 11.30น.-22.00น

24. ข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำ : นอกจากข้าวและไก่จะมีรสดีได้มาตรฐานแล้ว ที่ใครๆ ออกปากเห็นจะเป็นน้ำซุปร้อนๆ หอมและหวานน้ำต้มกระดูกไก่

25. ข้าวขาหมูสีลม : อยู่ในซอยตรงข้างโรงพยาบางเลิดสิน คนแถวนั้นรู้จักในนามขาหมูโกโก้ ใครอยากมาลองต้องรีบมาช่วงเที่ยงหลังบ่ายโมงไม่รับประกัน เพราะจะขายหมดเร็วมาก

26. ข้าวราดแกงวัดเล่งเน่ยยี่ : ในซอยมังกร ข้างวัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง ขึ้นชื่อในแกงประเภทแกงกะทิ โดยเฉพาะ แกงเนื้อ.. มาขายตั้งแต่ประมาณ 16.00น.เป็นต้นไป

27. ขนมเบื้องวังเดิม : สังเกตเห็นได้ง่ายเนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าขนมเบื้องธรรมดา ใช้แป้งถั่วเขียวละเลงเป็นแผ่น เพราะหอมกว่าแป้งสาลีแล้วเคลือบด้วยไข่ มีให้เลือกทั้งไส้หวาน และไส้เค็ม ชื่อวังเดิมเพราะร้านเก่าอยู่แถววังเดิม เดี๋ยวนี้อยู่ลานอาหารไทย ดิโอลด์สยามพลาซ่า

28. ร้านกาแฟโบราณเอี๊ยะแซ : โบราณสมชื่อ เพราะเปิดมาแล้วเจ็ดสิบกว่าปี ใช้เมล็ดกาแฟจากไร่ประจำนำมาคั่วทำให้ได้รสกาแฟแท้ดั้งเดิม เปิดรับคนตื่นเช้าตั้งแต่ตีสี่ครึ่งไปจนถึงสี่ทุ่ม ที่ร้านบนถนนเยาวราช-พาดสาย ตรงข้ามเท็กซัสสุกี้ นอกจากนี้ยังหาดื่มได้ตามศูนย์อาหารทั่วกรุงเทพฯ และเซ็นเตอร์พ้อยท์ เอาใจคอกาแฟรุ่นใหม่

29. ร้านขนมไทยหวานดำรงค์ : ร้านปัจจุบันเปิดมาตั้งแต่ปี 2508 ได้มรดกทางฝีมือการทำขนมมาจากคุณแม่ ซึ่งเจ้าของร้านถ่อมตัวว่าไม่ได้มาจากวังไหน แต่คุณหญิงหลายๆ ท่านก็มาสั่งทำขนมชั้นขนาดใหญ่ ตะโก้ และขนมเปียกปูน อยู่เสมอๆ ร้านเปิดเจ็ดโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม หยุดวันอาทิตย์ อยู่ในตลาดเจริญผล ใกล้สี่แยกเจริญผล หรือจะโทรศัพท์สั่งก็ย่อมได้ ที่ 02215 2345

30. โจ๊กสามย่าน : ถามใครๆ ก็บอกว่าทีเด็ดอยู่ที่หมูหมักก้อนกลมกล่อม ประกอบกับเปิดขายเฉพาะช่วงเช้าก่อนเข้าเรียน และช่วงเย็นประมาณหลังเลิกเรียนพอดี เลยกลายเป็นเสบียงให้นิสิตอิ่มท้องจนเรียนจบมาแล้วนักต่อนัก

31. โจ๊กหม้อดิน ซอยมหาดไทย : ใช้หม้อดินมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อเพราะหม้อดินเป็นภาชนะธรรมชาติปลอดสารพิษเวลาโดนความร้อน แถมเก็บความร้อนไว้ได้นานเนื้อหมูใช้หมูที่ไม่มีมัน ส่วนข้าวก็ใช้ข้าวหอมมะลิ ปัจจุบันเปิดขายแฟรนไชส์แบ่งปันกำไรและความอร่อยกันให้ทั่วๆ

32. เซ็งซิมอี๊ : อี๊หมายถึงแป้งที่ปั้นเป็นรูปร่างต่างๆ ส่วนเซ็งซิมหมายถึงชื่นใจ เซ็งซิมอี๊ ร้านที่ว่าเป็นร้านสะท้าน โลกันต์ อยู่บริเวณตลาดสวนหลวงเช่นกัน ขายช่วงเย็นๆ ไปจนค่อนคืน

33. ซ่าหริ่มชูถิ่น : บอกชื่อไป ไม่มีใครไม่รู้จักขายทั้งซ่าหริ่มและขนมไทยอีกหลายชนิด คนชอบทำขนมหลายคนดีอกดีใจ ที่ร้านนี้มีแป้งทำขนมขายพร้อมวิธีทำบอกเสร็จสรรพ แต่จริงๆ แล้วร้านเขาขายแป้งมาแต่เดิมต่างหาก

34. มนต์ นมสด : ชื่อร้านคือชื่อเจ้าของร้าน คุณมนต์ช่วยคุณพ่อทำร้านนม-กาแฟ มาตั้งแต่ 10 ขวบ เริ่มตั้งแต่เป็นรถเข็น ย้ายที่แล้วที่เล่าจนมาได้ที่ปัจจุบันอยู่ตรงข้ามศาลาว่าการกรุงเทพฯ เปิดขาย 14.00น.-24.00น. เน้นความซื่อสัตย์ที่ขนมปังสังขยาสดใหม่ทุกวันและไม่ใส่สารกันบูด

35. ผัดไทยสำราญราษฎร์ : ผัดไทยร้านนี้เป็นผัดไทยกุ้งสดเจ้าแรกของเมืองไทย ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูผีวัดสระเกศ ใกล้ๆ กันมีผัดไทยทิพย์สมัยให้เลือกชิมได้อีกที่ ในบริเวณเดียวกันจะมีอาหารอร่อยหลายร้าน แต่ขอให้ระวังสอบถามราคาก่อน เพราะอาหารบางร้านก็ราคาแพงอย่างไม่น่าเชื่อ

36. ร้านอาหารจีน ไหหลำ สามเสนซอย 8 ตรงข้ามวัดอินทร์

37. เย็นตาโฟประตูผี : เลยร้านผัดไทยมาจะเห็นร้านตี๋เย็นตาโฟ อยู่ตรงหัวมุมแยกสำราญราษฎร์ ตั้งโต๊ะขายช่วงกลางคืนเต็มพื้นที่ และคนก็มากพอๆ กับจำนวนโต๊ะ สอบถามได้ความว่าลูกชิ้นมีหลากหลาย และน้ำซุปก็อร่อยเกินหน้าเกินตาเย็นตาโฟร้านอื่น

38. ราดหน้า 4 สี ร้านชิ้งกี่: คือสีของเส้น รวมกับสีน้ำตาลของหมูหมัก สีเหลืองของไข่ดาว และสีน้ำตาลเข้มของ หมูแฮม ซึ่งจริงๆ แล้วคือหมูทอดกระเทียม แต่ลูกค้าเห็นว่าอยู่คู่กับไข่ดาวก็เลยพากันเรียกหมูแฮมจนติดปาก ร้านชิ้งกี่ เคยมีโอกาสรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ รวมทั้งคนใหญ่คนโตหลายๆ ท่านมาแล้ว อยู่ ใกล้สวนรมณีย์นาถ ถัดจากซอยร้านหวายนายเหมือนไปหนึ่งซอย

39. ลอดช่องสิงคโปร์ ร้านประโยชน์ : อยู่ระหว่างสามแยกกับวงเวียน 22 เป็นร้านเล็ก ๆ แต่รสชาติไม่เล็กเหมือนร้าน

40. ปอเปี๊ยะ/ มะตะบะ ท่าพระจันทร์ : กรรมวิธีการทอดต่างจากร้านอื่น ตรงทอดแป้งเป็นแผ่นบาง โรยด้วยไส้ นำมาซ้อนกัน 3 ชั้น ห่อด้วยแป้งแล้วจึงทอดอีกครั้ง วิธีนี้จะทำให้มีความกรอบและนุ่มพอดิบพอดี ร้านใกล้ๆ กันขายปอเ***ยะทอดที่ใส่เครื่องกุ้งและหมูสับเต็มๆ คำ รสดีด้วยเครื่องเทศและความกรอบใหม่

41. ถั่วแปบ ซอยละลายทรัพย์ : เดิมขายสาคูและข้าวเกรียบปากหม้อ แล้วมาทำถั่วแปบเสริม แต่ด้วยความที่ถั่วแปบเจ้านี้แป้งนิ่มกำลังดี ลูกค้าหันมาซื้อกันมากจนทำไม่ทัน จึงต้องหันมาขายเฉพาะถั่วแปบเป็นหลัก ที่ซอยละลายทรัพย์ถนนสีลม

42. ห่านพะโล้สะพานเหลือง : ผ่านการต้มมาอย่างดีจนเนื้อไม่เหนียวและไม่คาวเหมือนห่านพะโล้ทั่วๆ ไป อยู่ย่านสะพานเหลือง ริมถนนพระราม 4 ถ้ามุ่งหน้าหัวลำโพงจะอยู่ด้านซ้ายมือ ก่อนถึงแยกบรรทัดทอง

43. เนื้อย่างเกาหลี สูตรบึงพลาญชัย : ต้นตำรับดั้งเดิมขายอยู่ใกล้ๆ บึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด คุณนิภานำสูตรมาตั้งร้านที่หมู่บ้าน ต.รวมโชค ซอยโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าว จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปร้อนๆ ในหม้อย่างสามารถทานได้เลยเพราะผ่านการปรุงมาแล้ว

44. เป็ดย่างพูลสิน : เลยวัดตรีทศเทพมาเล็กน้อย เป็ดย่างสุกกำลังเหมาะจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว

45. ห่านพะโล้ฉั่วคิมเฮง : ตรงมาจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ข้ามแยกคลองตันมาถนนพัฒนาการ จะเห็นร้านใหญ่ซ้ายมือ ร้านดั้งเดิมปัจจุบันยังอยู่ท่าดินแดง ชื่อฉั่วกิมฮวด เก่าแก่จนได้รับฉายาว่าเป็นห่านสามชั่วคน

46. สะอาด : ขายสเต็กที่ผ่านการดัดแปลงรสชาติให้เข้ากับคอคนจีนได้เป็นอย่างดี ในร้านยังมี ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน อยู่บนถนนอิสรภาพ ใกล้สี่แยกบ้านแขก

47. อาหารไทย ร้านครัวอรรถรส ซอยเสือใหญ่อุทิศ : มีทั้งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ส้มตำผลไม้ ขนมจีนน้ำเงี้ยว ฯลฯ รวมไว้ในร้านเดียวกัน เจ้าของรวบรวมอาหารอร่อยจากที่ต่างๆ มาพัฒนารสชาติ ปรับส่วนที่เข้มข้นเกินไปให้อร่อยลงตัวไปอีกแบบ

48. ปลาหมึกย่างสยามสแควร์ : คุณป้าใช้ปลาหมึกสดๆ จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด ราคาอาจสูงไปนิด แต่ก็สมเหตุสมผลกับค่าทำเล และคุณภาพอาหาร อยู่ในสยามสแควร์ ซอย 4

49. ส้มตำจตุจักร : ฝั่งตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. ผ่านซุ้มหนังสือเก่าเลี้ยวขวา จะเจอร้านส้มตำฝุ่นตลบ ซึ่งมีอาหารอีกหลายอย่างให้เลือก อาทิ ไก่ทอด หมูยอ ก๋วยจั๊บญวน ที่อร่อยอาจเป็นเพราะรอนานจนหิวก็เป็นได้

50. หมี่กรอบจีนหลี สมัย ร.5 : เรื่องมีอยู่ว่า คุณทวดของเจ้าของร้านอพยพมาจากเมืองจีนมาทำหมี่กรอบขาย อยู่ บริเวณท่าน้ำตลาดพลู ซึ่งเป็นย่านที่มีขุนนางอาศัยอยู่เยอะ วันหนึ่งพระพุทธเจ้าหลวงปลอมพระองค์เสด็จฯ ตรวจราชการ แล้วทรงได้กลิ่นหมี่ใกล้สุก เมื่อเสด็จฯ ครั้งต่อๆมาจึงแวะเสวย และมีพระราชดำรัสให้ไปผัดในวัง ปัจจุบันหมี่กรอบจีนหลียังตั้งอยู่ที่เดิม ขายสิบโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม

51. เย็นตาโฟวัดแขก ถนนสีลม : ใครเคยไปบริเวณวัดแขกจะเห็นว่าทุกร้านล้วนขึ้นป้ายว่าเย็นตาโฟวัดแขกเจ้าเก่า แนะนำได้เพียงว่าร้านดั้งเดิมคือร้านที่อยู่ใกล้กับวัดแขกมากที่สุด แต่เรื่องรสชาติต้องลองชิมดูเองว่าร้านไหนจะถูกปากใคร

52. ร้านเต้าหู้ทอด เผือกทอด น้ำจิ้มรสเด็ด จตุจักร ร้านนี้ขายเฉพาะเสาร์-อาทิตย์เท่านั้นที่สวนจตุจักร อยู่โครงการ 2 ซอย 2 ฝั่งตรงข้ามตลาด อ.ต.ก. ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน น้ำจิ้มรสเด็ดมาก ถั่วลิสงหอมความใหม่ เผือกทอด ข้าวโพดทอด มีแต่เผือกกับข้าวโพดมากกว่าแป้ง

53. ไอศกรีมทิพรส : ไอศกรีมกะทิหลากชนิด มีให้เลือกทั้งกะทิโบราณ กะทิรวมมิตร และกะทิทรงเครื่อง มีบริการแพ็คกลับบ้านได้ ราคาไม่แพง อยู่บริเวณสี่แยกเตาปูน มุ่งหน้าไปทางตลาดเตาปูน

54. โรตีกรอบ หน้าเพาะช่าง : พัฒนามาจากโรตีแผ่นกลมธรรมดา มาเป็นโรตีแผ่นสี่เหลี่ยมทอดจนกรอบ

55. ไอศกรีมไข่แข็ง : โดยการใส่ไข่แดงล้วนๆ ลงในไอศกรีมกะทิ ความเย็นจะกลบกลิ่นคาวกลายเป็นรสชาติหอมมันแทน ร้านอยู่ถัดจากเซ็งซิมอี๊ที่ตลาดสวนหลวงไปประมาณ 2-3 ห้อง

ร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี

หลายท่านที่กำลังมองหาร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ เพื่อกิน ดื่ม เที่ยวกับเพื่อนๆ วันนี้เรามีข้อมูลร้านอาหารอร่อยๆ มาแนะนำ และลองไปชิมดูจ้า

ครัวริมน้ำ :  มุมอร่อยในบรรยากาศชิลล์ๆ ชิดริมน้ำ
(ปากเกร็ด/นนทบุรี )


ทันที ที่ได้ก้าวมาเยือนความเป็นครัวริมน้ำ ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศสบายๆ ซึ่งอบอวลไปด้วยความอบอุ่นเป็นกันเอง และความหวานละมุนของการตกแต่งแต่ละมุมให้ดูผ่อนคลายชวนให้อยากนั่งชิลล์ เรื่อยๆ ใครอยากชิมความอร่อยแบบไทยๆ หรืออยากนั่งชิลล์ในบรรยากาศสบายๆ ที่อาจไม่ต้องไปไกลถึงริมชายหาด หรือนั่งเรือไปลอยล่องกลางลำน้ำ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความสวยงาม และความโรแมนติกของบรรยากาศริมสายน้ำแบบนี้ก็ไปได้ค่ะ

สองฝั่งคลองรีสอร์ทแอนด์เรสเตอรองท์ :  อบอุ่นโรแมนติก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
(ปากเกร็ด/นนทบุรี)

ลูกค้า สามารถเลือกนั่งด้านในอาคาร ซึ่งสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 300 ที่นั่ง เหมาะสำหรับนั่งรับประทานอาหารกับครอบครัวแบบอบอุ่นเป็นกันเอง หรือจะนั่งรับลมชิวๆ กับทิวทัศน์สองฝากฝั่งแม่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในยามเย็นย่ำนั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำ ให้บรรยากาศอบอุ่นโรแมนติก

ต้มยำกุ้ง :  ร้านอาหารไทยสไตล์คลาสสิก
(พระนคร/กรุงเทพฯ)

ร้าน ต้มยำกุ้ง เป็นอีกหนึ่งร้านในย่านถนนข้าวสารที่เปิดให้บริการลูกค้าทั้งไทยและต่าง ประเทศมานานนับสิบปี ด้วยบรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น สบายๆ เป็นกันเองสไตล์คลาสสิก บวกกับรสชาติอาหารที่บ่งบอกความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน จึงเป็นเสน่ห์ทำให้ลูกค้าติดใจ มาอุดหนุนกันอย่างเหนียวแน่น

สามเสนวิลล่า สาขาราชพฤกษ์ :   ต้นตำรับเบียร์วุ้นแก้วแช่พร้อมอาหารรสเด็ด
(ราชพฤกษ์/กรุงเทพฯ)

ใคร บอกว่าการดื่มเบียร์วุ้นเย็น ๆ เหมาะกับบรรยากาศหน้าหนาวลมพัดสบาย ๆ เท่านั้น ขอบอกว่าไม่จริงเลยยิ่งถ้าเป็นเบียร์วุ้นที่สามเสนวิลลาด้วยแล้วดื่มได้ทุก ฤดูค่ะ พร้อมด้วยอาหารไทยรสชาติดั้งเดิม เพลินจนไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ สิ่งแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจนกับสามเสนวิลล่า สาขาถนนราชพฤกษ์ คือความยิ่งใหญ่ ตกแต่งเหมือนคฤหาสน์หรูท่ามกลางสวนหย่อมสวยงาม  โดยต้องการให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนกับอยู่ในบ้านของตัวเอง

Bangkok Balcony :  ห้องอาหารแห่งใหม่ ที่สูงที่สุดในเมืองไทย
(ราชเทวี/กรุงเทพฯ)

Bangkok Balcony เป็นห้องอาหาร Open Air ที่เป็นไฮไลท์ล่าสุดของโรงแรมใบหยก สกาย ด้วยดีไซน์ของตัวอาคารที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้ Bangkok Balcony เป็นห้องอาหารที่จะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกในมุมมองแบบพาโน ราม่า และคุณยังจะได้พบกับความสวยงามของกรุงเทพฯแบบไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น

Enchanted :  บรรยากาศยวนใจและรสชาติชวนลุ่มหลง
(วัฒนา/กรุงเทพฯ)

ว่า กันว่าการรับประทานอาหารให้ได้รสชาติต้องควบคู่ไปกับบรรยากาศที่ดี เราจึงอยากแนะนำร้านที่ชื่อว่า  Enchanted เพราะที่นี่ตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศน่าหลงใหลสำหรับการนั่งรับประทานอาหาร หรือจะสังสรรค์กันก็เวิร์คสุดๆ ร้าน Enchanted ถือกำเนิดมาจากการร่วมมือกันของกลุ่มเพื่อนที่ต้องการทำร้านอาหารนั่งเล่น สบายๆ เพื่อผ่อนคลายหลังการเลิกงาน

เรือนปั้นหยา :  ร้านอาหารกึ่งรีสอร์ทใจกลางกรุง
(วังทองหลาง/กรุงเทพฯ)

ร้าน นี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 48 จนถึงวันนี้นับเป็นเวลา 7 ปีแล้ว แต่ยังคงได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นร้านอาหารกึ่งรีสอร์ท ที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องบรรยากาศดี อาหารอร่อย อีกทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 9 ไร่

ร้านอาหาร บ้านเหนือน้ำ :  อาหารอร่อย บรรยากาศดี เหนือคำบรรยาย
(บางปรอก/ปทุมธานี)

ลักษณะ เป็นบ้านไม้ไทยสมัยโบราณ เป็นบ้าน 2 ชั้น ถูกดัดแปลงและตกแต่งให้เป็นร้านอาหาร ตัวบ้านมีเสาที่ยึดติดกับแม่น้ำ มีชานและท่าหน้าบ้านที่สามารถลงไปสัมผัสกับแม่น้ำ บริเวณภายในแบ่งเป็นโซนด้านนอกตัวบ้านคล้ายระเบียง มีโซนด้านในร้านที่กลางวันเป็นห้องปรับอากาศ

Mango Tree :  ร้านอาหารไทยรสเลิศในบรรยากาศร่มรื่น
(บางรัก/กรุงเทพฯ)

Mango Tree ร้านอาหารไทย ที่เปิดให้บริการมานานเป็นสิบปี จากแรงบันดาลใจของผู้บริหารที่ต้องการให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักของชาวต่าง ชาติ จึงทำให้ Mango Tree ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางบ้านไทยโบราณสีขาวที่สร้างในสมัยรัชการที่ 6

นนท์นที :  ร้านอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน!! จนวางช้อนไม่ลง
(บางไผ่/นนทบุรี)

ถ้า อยากหาร้านอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยแมกไม้และสายน้ำแถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ร้านอาหารนนท์นที น่าจะตอบโจทย์อันนี้ได้ ซึ่งร้านอยู่ไม่ไกลจากเชิงสะพานพระราม 5

ไหว้พระ 9 วัด 9 วัน รถรางกรุงเทพมหานคร บริการฟรีถึงวันที่ 9 นี้

ไหว้พระ 9 วัด 9 วัน กับกรุงเทพมหานคร

ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กล่าวว่า ทาง กทม.ได้จัดกิจกรรมขบวนรถรางไหว้พระ 9 วัด 9 วัน เพื่อความเป็นสิริมงคล และความก้าวหน้าให้แก่ชีวิตประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดยให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญและบริจาคทานตามศาสนสถานหรือสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพรชัยแก่การเริ่มต้นชีวิตที่ดีเนื่องในเทศกาลปีใหม่  โดยจะวิ่งวนรับ-ส่งประชาชน ตามเส้นทางเริ่มจาก วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ทั้งนี้วัดที่ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี 3 วัด ได้แก่ วัดระฆังฯ วัดอรุณฯ และวัดกัลยาณมิตรฯ รถรางจะจอดรอ ณ จุดจอดรถรางฝั่งพระนคร ประชาชนต้องเสียค่าเรือข้ามฝากเพื่อไปสักการะทั้ง 3 วัดเอง นอกจากนี้ทางกทม. ยังได้จัดทำคู่มือไหว้พระ 9 วัด แจกเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สนใจได้ใช้เป็นข้อมูลในการเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงเพื่อเรียนรู้ถึงคุณค่าของโบราณสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานครและบริเวณโดยรอบอีกด้วย

รถรางไหว้พระ 9 วัด 9 วัน เปิดให้บริการฟรีตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. วันที่ 1-9 ม.ค.54 ประชาชนผู้สนใจร่วมสร้างกุศล สามารถลงทะเบียนได้ฟรี ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

เครดิต: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ 3 มกราคม 2554

เขาสก กุ้ยหลินเมืองไทย

กุ้ยหลินเมืองไทย อุทยานแห่งชาติเขาสก

เขาสก กุ้ยหลินเมืองไทย
ขุนเขาสูงล้ำค้ำฟ้า ตระหง่านเงื้อมประดุจภูผาปราการ เป็นแหล่งกำเนิดของพืชพันธุ์เฉพาะถิ่นหลากหลาย ให้ผู้คนค้นหาคุณค่าป่าดงดิบอันพิสุทธิ์ของแดนใต้ ใครจะเชื่อว่า ถ้าบินได้ดั่งนกแล้วมองดูเขาสกที่อยู่เบื้องล่าง อาจเผลอนึกไปได้ว่านี่คือกุ้ยหลินเมืองไทย ที่ไม่ต้องบินไปดูไกล ถึงเมืองจีน

เขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก ตั้งอยู่ในเขตอำเภอคีรีรัฐนิคมอำเภอพนม และอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ภูมิประเทศส่วนใหญ่ เป็นเขาหินปูนสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยหุบลึก ร่องลำธาร ถ้ำ และน้ำตก อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้ หายากระดับโลกหลายชนิด เช่น ปาล์มหลังขาว หมากพระราหู กระพ้อสี่สิบ บัวผุด ฯลฯ และมีนกป่าอาศัยอยู่กว่า 155 ชนิด ใจกลางผืนป่าเขาสก คือเขื่อนรัชชประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ซึ่งเกิดจากการกั้นลำคลองแสง จนเกิดทัศนียภาพของทะเลสาบขนาดใหญ่กว่า 1 แสนไร่ และเกาะหลายร้อยเกาะที่เหมาะจะผจญภัยเดินป่า พายเรือ ว่ายน้ำเล่น ดูนก และศึกษาพรรณไม้หลากชนิด


ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่แนะนำ
ฤดูที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวป่าเขาสกเหมาะคือระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายน

การเดินทาง
จากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ไปราว 60 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอบ้านตาขุน ตรงสู่เขื่อนรัชชประภา และอุทยานฯเขาสก ระยะทางราว 100 กิโลเมตร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท. ภาคใต้ เขต 5 โทร. 0-7728-8818-9

ออบหลวง

หินจูบกัน

ออบหลวง ช่องเขาที่ลำธารไหลผ่าน โตรกเขาแม่น้ำสลักหิน ภูเขาหินอันยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยอารยธรรมของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เบื้องบนรอบด้านมีพืชพันธุ์อันหลากหลาย งดงามทุกฤดูกาล ใครจะเชื่อว่า เบื้องล่างที่แม่น้ำสายหนึ่งไหลผ่าน จะเกิดประติมากรรมมหัศจรรย์ “ภูเขาหินจูบกัน” ที่นี่  คำว่า “ออบ” เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ช่องแคบที่มีน้ำไหลผ่าน “ออบ” ในภาคเหนือมีหลายแห่งด้วยกัน เช่น ออบหลวง ออบนาน ออบพี่กิ่ว   คำว่า “หลวง” หมายถึงใหญ่  “ออบหลวง” คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องแคบหินขนาดยักษ์ที่มีลำน้ำแม่แจ่มบีบตัวแทรกผ่านไป อีกนัยหนึ่งคือ หุบผาที่มีสายธารไหลผ่าน ดังนั้น ออบหลวงจึงเป็นออบที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่อลังการกว่าออบอื่นๆ  ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชม และได้รับการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติออบหลวง ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติออบหลวง

อุทยานแห่งชาติออบหลวง
อุทยานแห่งชาติออบหลวง มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอจอมทอง อำเภอออบ และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดเด่นที่ โตรกธาร และผาหินที่ถูกลำน้ำแม่แจ่มกัดเซาะจนเกิด เป็นโตรกเขาน้ำเชี่ยวกรากรุนแรง ท้าทายนักล่องแก่งทั้งหลายให้มาร่วมผจญภัยไหลคดเคี้ยวไปตามสายน้ำ นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติออบหลวงยังมีสภาพป่าที่สมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศน์ทุกประการ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ ที่ต้องเดินข้ามสะพานออบหลวงเข้าสู่แหล่งโบราณคดีที่ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ และภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์  อีกทั้งยังมีบ่อน้ำร้อนเทพพนม ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ อุณหภูมิสูงถึง 99 องศาเซลเซียส พวยพุ่งมากระทบน้ำเย็นใต้ดินจนเกิดไอร้อนคุอยู่ตลอดเวลา สภาพธรรมชาติอันงดงามของอุทยานแห่งชาติออบหลวง เหมาะแก่กิจกรรมกลางแจ้งหลายประเภท ทั้งการเดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา พายเรือคายัค และล่องเรือยางชมธรรมชาติ

ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่แนะนำ
อุทยานแห่งชาติออบหลวงสามารถเที่ยวชมได้ทั้งปี แต่ช่วงที่สวยงามที่สุดจะเป็นในช่วงฤดูแล้ง ราวเดือนมกราคมที่ป่าเต็งรังทั้งป่าจะเปลี่ยนสีสวยงามมาก ลักษณะสภาพภูมิอากาศในเขตอุทยานแห่งชาติแบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคม ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 6 องศาเซลเซียส  ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน

การเดินทาง
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 ไปยังอำเภอฮอด เลี้ยวขวาขึ้นไปทางอำเภอแม่สะเรียง ประมาณ 22 กิโลเมตร จะผ่านอุทยานฯออบหลวง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. ภาคเหนือ เขต 1 โทร. 0-5324-8604, 0-5324-1466